ประวัติความเป็นมา

เดิมคือ กิ่งอำเภอโคกปีบ ของอำเภอ ศรีมหาโพธิ หลังจากนั้นกิ่งอำเภอโคกปีบ ได้รับการยกฐานะเป็น อำเภอ และเปลี่ยนชื่อจากอำเภอศรีมโหสถ ในปี พ.ศ.2536 เป็นอำเภอศรีมโหสถ โบราณสถานของอำเภอจึงเรียกชื่อตามอำเภอ คือ “เมืองโบราณศรีมโหสถ” โดยเมืองโบราณศรีมโหสถ นี้อยู่ห่างจากอำเภอศรีมโหสถ ประมาณ 20 กิโลเมตร

 จากการขุดค้นเมืองโบราณศรีมโหสถ นี้ พบว่าลักษณะของเมืองโบราณนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ขอบข้างทั้งสี่มนมีคันดินและคู้น้ำล้อมรอบพื้นที่ ภายในเมืองโบราณศรีมโหสถ มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง ประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานต่าง ๆ เช่น หมู่เทวาลัย เจดีย์รูปกลมเหมือนโถคว่ำสมัยทวารวดี เทวาลัยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมีอายุอยู่ราวพุทธศตวรรษที่ 6-11 และสันนิษฐานว่าเมืองโบราณศรีมโหสถ นั้นเป็นเมืองในยุคสมัยทวารวดี เนื่องจากมีการขุดค้นพบเทวรูป ศิวลึงค์ และเทวาลัย   

               อำเภอศรีมโหสถ หรือ ดงศรีมหาโพธิ เป็นอีกเส้นทางหนึ่งในการเดินทัพ การกู้ชาติ ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่พระองค์และทหารพากันออกมาจากรุงศรีอยุธยาประมาณ 500 คน เดินเท้ามาทางบ้านนางเริง จังหวัดนครนายก เดินทัพมาถึงบ้านบางคาง ข้ามแม่น้ำปราจีนบุรีที่บ้านกบแจะหรือบ้านกระแจะและพักทัพรอขบวนที่ชายดงศรีมหาโพธิ ถึงทุ่งบ้านไผ่ชะเลือด ผลปรากฏว่าทหารพม่าแพ้ยับเยินปรากฏเกียรติศัพท์เลื่องลือ ทำให้ชาวบ้านเข้ามาสมทบเป็นขบวนการกู้ชาติของพระองค์เป็นจำนวนมาก

คำขวัญ
ไหว้หลวงพ่อทวารวดี ต้นศรีมหาโพธิ์ยืนนาน โบราณสถานพระบาทคู่ มาฆปูรมีเทศกาล สืบสานบุญบั้งไฟ ส้มโอใหญ่รสดี

ลักษณะที่ตั้ง
อำเภอศรีมโหสถ   ตั้งอยู่บริเวณพิกัด   คิวอาร์  ๖๐๔๓๕๘  ของแผนที่ทหารชุด L๗๐๑๗  มาตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ ห่างจากจังหวัดปราจีนบุรี ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร

  เนื้อที่      มีพื้นที่ประมาณ ๑๓๐ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๘๓,๑๒๕ ไร่

อำเภอศรีมโหสถ

แบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 4 ตำบล 24 หมู่บ้าน
– ตำบลโคกปีบ มีจำนวน 9 หมู่บ้าน
– ตำบลโคกไทย มีจำนวน 7 หมู่บ้าน
– ตำบลไผ่ชะเลือด มีจำนวน 4 หมู่บ้าน
– ตำบลคู้ลำพัน มีจำนวน 4 หมู่บ้าน

ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 4 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลตำบลโคกปีบ  ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของตำบลโคกปีบ
  • องค์การบริหารส่วนตำบลโคกปีบ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกปีบ (เฉพาะนอกเขตเทศบาลตำบลโคกปีบ)
  • องค์การบริหารส่วนตำบลโคกไทย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลโคกไทย
  • องค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ชะเลือด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลไผ่ชะเลือด และตำบลคู้ลำพัน