วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมด้วยนายอรุณ เหมือนตา เกษตรจังหวัดปราจีนบุรี หัวหน้ากลุ่มงาน และเกษตรอำเภอ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการจัดงานเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ตอซังข้าวและฟางข้าวขึ้นน้ำ) ณ แปลงสาธิตการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร หมู่ที่ 9 ตำบลวัดโบสถ์ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีนางสลิลพิญช์ ถือมั่น เกษตรอำเภอเมืองปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองปราจีนบุรี ผู้นำชุมชม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับและรายงานสภาพปัญหาในพื้นที่ สำหรับพื้นที่ดังกล่าว มีสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วมขังค่อนข้างสูงในฤดูฝน เกษตรกรจึงสามารถปลูกข้าวได้เพียงพันธุ์ข้าวขึ้นน้ำ เช่น พันธุ์ขาวบ้านนา 432 และพลายงามปราจีนบุรี ซึ่งมีลักษณะพิเศษ คือ มีความสามารถในการยืดข้อปล้องตามระดับน้ำ และชูรวงให้ ตั้งชันเหนือผิวน้ำ จึงสามารถเจริญเติบโตในพื้นที่น้ำท่วมช่วงฤดูน้ำหลากระหว่างการปลูกข้าวได้ดี ทำให้ตอซังและฟางข้าวชนิดนี้มีขนาดใหญ่ ยาว และเหนียวมาก ยากต่อการจัดการด้วยวิธีไถกลบตอซัง อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตชลประทาน ทำให้ขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง จึงไม่สามารถหมักย่อยสลายตอซังและฟางข้าวได้ ส่งผลให้จังหวัดปราจีนบุรีมีจำนวนจุดความร้อน (HotSpot) ที่เกิดจากการเผาในพื้นที่นาข้าวสูงในช่วงธันวาคมถึงมีนาคมเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นช่วงหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในปี 2568 สำนักงานเกษตรจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองปราจีนบุรี ร่วมกับฝ่ายปกครอง ต.วัดโบสถ์ อ.เมืองปราจีนบุรี นำโดยนางศิริรัตน์ กลับประทุม กำนันตำบลวัดโบสถ์ ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตร บริเวณแปลงนาสาธิตหมู่ที่ 9 ต.วัดโบสถ์ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 29 ไร่ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท ยันม่าร์ เอส พี จำกัด ให้การสนับสนุนเครื่องสับย่อยเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร (ตอซังและฟางข้าวขึ้นน้ำ) โดยฟางอัดก้อนที่ได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย เช่น การคลุมดินรักษาความชื้นในสวนไม้ผล การแปรสภาพเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดสำหรับส่งจำหน่ายในโรงไฟฟ้าชีวมวลหรือโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดปราจีนบุรีต่อไป#ฟางข้าวน้ำลึก#เกษตรปราจีนบุรี